อุปกรณ์ ที่ใช้ในการลงสี




#B1
แปรง (Brush)

ในการเลือกใช้แปรงทาสีหรือแปรงทาน้ำมันเคลือบใสโดยทั่วไปนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดจะต้องพิจารณาได้แก่ คุณภาพของขนแปรง ทั้งนี้เนื่องจากขนแปรงคุณภาพดีจะกักเนื้อสีได้มากทำให้ไม่หยดหรือกระเด็นมากจนเกินไปขณะทำงาน นอกจากนั้นยังทำให้สามารถทาได้เรียบและไม่เกิดรอยแปรง จึงเป็นผลทำให้เกิดการประหยัดสีและงานที่ออกมามีความเรียบร้อยและสวยงาม
แปรงที่ใช้ในการทาสีไม้แปรรูปเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ชาวบ้านใช้ได้แก่ แปรงขนอ่อน 2 ชนิด
แปรงขนอ่อนมีลักษณะเป็นแปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม ละเอียดอ่อน มีสีขาวขนแปรงทำมาจากขนกระต่ายหรือขนไนล่อน ด้ามแปรงทำด้วยไม้เนื้ออ่อนโคนแปรงหุ้มด้วยแผ่น อีกชนิดที่ยังนิยมใช้อยู่คือแปรงขนอ่อนที่ด้ามจับทำจากปล้องไม้ไผ่ขนาดเล็ก นำมาติดกันเป็นแผงมีหลายขนาด นิยมเรียกเป็นซี่ เช่น 2,4,6,8,10,12,14 และ 16 ซี่ เป็นต้น การใช้งานควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงาน อย่านำแปรงขนาดใหญ่ซี่มากๆ มาแยกจากกัน เพื่อให้เป็นแปรงขนาดเล็ก จะทำให้แปรงหลุดออกจากปล้องไม้ไผ่ได้ นิยมใช้การทาแลกเกอร์ เชลแล็ก วานิช น้ำยาเคลือบเงาชนิดต่างๆ ก่อนนำไปใช้งานต้องหยอดโคนแปรงด้วยแลกเกอร์หรือเชลแล็กเสียก่อน แปรงขนอ่อนที่นิยมใช้ส่วนมากทำมาจากขนกระตาย จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า แปรงขนกระต่าย
วิธีการหยอดโคนแปรงขนอ่อน
          1) ก่อนนำแปรงขนอ่อนไปใช้ทาเชลแล็กต้องนำแปรงดังกล่าวไปหยอดโคนแปรงด้วยแลกเกอร์ทิ้งไว้ให้แห้ง เพื่อให้แลกเกอร์ยึดเกาะโคนแปรงให้ติดกันแน่น ขนแปรงจะได้ไม่หลุดขณะปฏิบัติงาน
          2) ในทำนองเดียวกันถ้าต้องการนำแปรงขนอ่อนไปใช้ทาแลกเกอร์ ก็ต้องหยอดโคนแปรงด้วยเชลแล็ก ทิ้งไว้ให้แห้ง เพื่อให้เชลแล็กยึดเกาะโคนแปรงให้ติดแน่น ขนแปรงจะได้ไม่หลุดในขณะปฏิบัติงาน
3) เมื่อใช้งานแปรงเสร็จให้เก็บแปรงไว้ในถุง หรือ แขวนไว้ในที่โล่ง ใช้มือจัดขนแปรงให้เรียบตรงเมื่อจะนำไปใช้ทาเชลแล็กให้แช่แปรงที่แอลกอฮอล์หรือหากจะทาแลกเกอร์ใช้แช่ทินเนอร์
          4) หากขนแปรงหลุดติดชิ้นงาน ควรทิ้งให้แห้งสนิทแล้วใช้กระดาษทรายน้ำ หรือกระดาษทรายนมลูบออก การถือแปรงทาให้ถือเหมือนกับการจับดินสอ แปรงควรจมลงให้มากกว่า  1/3 ของความยาวขนแปรงเล็กน้อย และสารเคลือบสีส่วนเกินให้ปาดออกกับขอบในของภาชนะ การทาให้ลากยาวสม่ำเสมอ ตามเนื้อไม้เฟอร์นิเจอร์ห้ามกดแปรงในขณะทางโดยให้ทำไปเบาๆ และ สม่ำเสมอ ใช้ส่วนปลายขนแปรงทาบริเวณขอบและมุมต่างๆ

#B2
ถังสี

กระป๋องผสมสี ส่วนใหญ่จะใช้กระป๋องสีที่ล้างสะอาดแล้ว และไม่เป็นสนิมมาใช้สำหรับผสมสีต่างๆ ตามที่ต้องการ การใช้กระป๋องผสมสีแยกต่างหากจากกระป๋องสีก็เพื่อที่จะผสมได้อย่างอิสระ สามารถวัดหรือกำหนดส่วนผสมได้อย่างถูกต้องแน่นอน และเพื่อที่จะคนสีให้เข้ากันได้ดีเสียก่อนที่จะนำไปทา

#B3
กระดาษทราย (Sandpaper)

          กระดาษทราย (Sandpaper) คือ กระดาษทรายชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วยสารขัดหรือผงขัดติดอยู่บนหน้าของกระดาษ มีไว้เหตุด้วยขัดพื้นผิวของวัสดุให้เรียบเนียน ขัดตกแต่งหรือทำให้พื้นผิวมีความหยาบและขรุขระมากกว่าเดิมก็ขึ้นอยู่กับเบอร์ของกระดาษทรายที่เลือกใช้
งานขัดไม้ด้วยกระดาษทราย
จะแบ่งออกเป็นสามระดับเพื่อให้ได้งานไม้ที่ออกมาความสามารถที่สุด โดยแบ่งลำดับการทำงานดังนี้ ขัดหยาบ ขัดเรียบ ขัดละเอียด
1) ขัดหยาบ (Leveling) เป็นการขัดด้วยว่าขจัดหรือลบรอยแผลต่างๆบนผิวไม้ที่เกิดจากเครื่องจักรหรือ เครื่องมือ โดยใช้เบอร์ 120 แต่ถ้าหากผิวหยาบมากหรือเป็นไม้ที่เนื้อแข็งมากๆให้ใช้กระดาษทรายเบอร์ 40, 60, 80 ด้วยเครื่องขัด
2) ขัดเรียบ (Uniforming) เป็นการขัดเพราะว่าลบรอยจากกระดาษทรายที่เกิดจากวิธีการการขัดหยาบ จะทำให้ผิวไม้มีความเรียบเนียนขึ้น โดยใช้กระดาษทรายเบอร์180 หากเป็นงานไม้ที่ไม่ต้องการความละเอียดมากก็สามารถจบงานได้ในกระบวนการนี้
3) ขัดละเอียด (Polishing) เป็นการขัดเพื่อเก็บรายละเอียดโดยจะทำให้ผิวไม้มีความเรียบเนียนมองไม่เห็นรอยของกระดาษทรายในวิธีการของก่อนหน้านี้ ใช้กระดาษทรายเบอร์ 240
4) การขัดก่อนลงสีหรือเคลือบผิวควรทำให้ผิวไม้มีความเรียบเนียนที่สุดเพราะด้วยไม่ให้เกิดร่องรอยเม็ดๆบนผิวไม้โดยใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดคือ เบอร์ 320 หรือเรียกว่าเบอร์ 0
          กระดาษทรายขัดไม้ เบอร์น้อย ยิ่งจะมีความละเอียดมาก เวลานัดนิยมขัดด้วยมือ โดยการตัดหรือพับเป็นรูปสี่เหลี่ยมและใช้ไม้เป็นตัวรอง แล้วนำมาขัดเนื้อไม้



#B4
ผ้าเช็ด

          ผ้าที่นำมาเช็ดทำความสะอาดไม้อาจจะเป็นผ้าด้ายดิบ หรือผ้าสะอาดที่ไม่เป็นขน เพราะจะไม่เกิดรอยหรือขนตกค้างที่เนื้อไม้ ใช้สำหรับเช็ดทำความสะอาดบริเวณสีส่วนเกินที่ช่างทาสีทาล้ำเข้ามาในเนื้องานส่วนอื่น โดยการชุบผ้ากับสารละลายของสีนั้น ๆ ก่อนนำไปเช็ดและใช้ทำความสะอาดชิ้นงาน ใช้เช็ดขี้เลื่อยในขณะที่อุดรอยไม้เฟอร์นิเจอร์ เพื่อไม่ให้ขี้เลื่อยเลอะออกนอกบริเวณที่อุดซึ่งเป็นผ้าขี้ริ้ว หรือ ผ้าชนิดที่ไม่มีขน

#B5
เกรียง/เหล็กโป้วสี (Putty trowel)

          เกรียงขูดสี-โป้วสีมีลักษณะเป็นแผ่นเหล็กบางๆ มีความเหนียวและมีสปริงในตัวส่วนปลายจะกว้างและจะสอบแคบในลักษณะโค้งเล็กน้อยเข้าหาส่วนโคน มีด้ามจับขนาดกะทัดรัดเพื่อให้มือกำได้ เกรียงเหล็กไม่เพียงแต่จะใช้สำหรับขูดเพื่อขจัดสีเก่าออกพื้นที่ที่จะทาสีเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ในการอุดโป้วตามรอยร้าวหรือรอยตะปู ก่อนการทาสี เกรียงชนิดนี้จะช่วยให้การอุดและโป้วสีสามารถที่จะกระทำได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สีที่โป้วแน่น และเรียบร้อยกว่าการใช้เครื่องมือชนิดอื่นๆ ขนาดที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปกับงานทาได้แก่ขนาด 1 ถึง 2 นิ้ว
Ø ปลายเกรียงเหล็กโป้ว หากใช้งานไปนานๆจะมีความคมคล้ายมีดอาจจะต้องระมัดระวังในการใช้งาน

#B6
เครื่องขัดกระดาษทราย (Power Sander)

          เครื่องขัดกระดาษทรายเป็นเครื่องขัดที่นิยมใช้กับงานไม้ ใช้สำหรับการขัดตกแต่งพื้นผิวของชิ้นงานให้เรียบก่อนการลงสี หรือลงวัสดุเคลือบผิวอื่น ๆ เครื่องขัดกระดาษทรายนิยมใช้กับกระดาษทรายหยาบ หรือที่ชาวบ้านชอบเรียกว่ากระดาษทรายแดง โดยเป็นกระดาษทรายเบอร์ 80 เครื่องขัดกระดาษทรายแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ แบบสายพาน (belt sander) และ แบบขัดละเอียด (finishing sander)
          สำหรับเครื่องขัดแบบสายพาน เป็นเครื่องขัดหยาบใช้สำหรับขัดเพื่อปรับระดับผิวไม้ขั้นแรก ส่วนเครื่องขัดแบบขัดละเอียดก็จะมีทั้งแบบที่ทำงานในลักษณะที่เคลื่อนตัวไป มาในแนวเส้นตรง (straight line action) แบบส่ายวงกลม (orbital action) และแบบส่ายไป มา (multi-motion action) ซึ่งในแบบแรกแม้จะทำงานค่อนข้างช้ากว่า 2 แบบหลัง แต่ก็ทิ้งรอยไว้น้อยกว่า
วิธีการใช้เครื่องขัดกระดาษทราย   
          1. ตัดกระดาษทรายแดงเบอร์ 80 ให้มีขนาดเท่ากับพื้นเครื่องขัด
          2. นำกระดาษทรายแดงไปวางไว้บนพื้นเครื่องขัดและพับหัวท้ายให้ตรงกับล็อคของเครื่องขัด
3. ให้แน่ใจว่าเครื่องขัดกระดาษทรายปิดแน่นอนก่อนจะเสียบปลั๊กไฟ
          4. ปรับความตึงของสายพานขัดเพื่อให้เหมาะสมกับการทำงาน
          5. ใช้เครื่องขัดกระดาษทรายในทิศทางที่ถูกต้อง อย่าเปลี่ยนทิศกะทันหัน
          6. ให้มือห่างจากสายพานเครื่องขัดกระดาษทราย
          7. ใช้มือทั้งสองข้างในการทำงาน จับให้มั่นเหมาะมือ
          8. ทำความสะอาดฝุ่นและมอเตอร์หลังจากการใช้งานแล้ว

#B7
พู่กัน และ จานสี (Painting brush and Palette)

โดยส่วนมากจะใช้พู่กันสีน้ำมันในการแต้มสีพื้นไม้ ลักษณะขนพู่กันที่ใช้จะต้องมีความแข็งสามารถรองรับ และทนต่อสีน้ำมันได้ พร้อมทั้งต้องมีแรงสปริงตัว คืนกลับเข้าที่เดิมได้ดี ส่วนใหญ่ทำจากขนสัตว์ ขนหมู (Hog Bristles) มีลักษณะขนที่แข็งเป็นเส้น ปลายขนจะแยกเป็นแฉก ส่วนใหญ่แล้วจะใช้พู่กันในการแต่งแต้มสีหรือ รอยที่เกิดจากการแต่งจากขี้โป้ให้เรียบร้อย เพื่อให้สีเนื้อไม้เสมอกันและสามารถพรางรอยอุดได้
          จานสีส่วนใหญ่จะใช้ฝากระป๋องสีที่หมดแล้วมาประยุกต์ใช้ ในการทำเป็นที่รองแต้มสี

#B8
ลูกประคบ

มีลักษณะคล้ายลูกประคบสมุนไพรแต่แตกต่างกันตรงที่ข้างในลูกประคบจะเป็นก้อนสำลีที่ห่อหุ้มด้วยผ้าขาวบางแล้วใช้เชือกผูกให้เป็นก้อนกลมและแน่น ขนาดของลูกประคบขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้ปฏิบัติงานแต่ละคน ลูกประคบเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ใช้ในการทาพื้นผิวของเชลแล็กด้วย โดยการทาแบบวนเป็นวงกลมหรือทาเป็นตามแนวยาว แต่ส่วนใหญ่แล้วจะทาเป็นตามแนวยาว

#B9
ไม้กวาด (Broom)
         
ไม้กวาดเป็นไม้กวาดดอกหญ้า ที่มีบริเวณด้ามจับเป็นไม้หรือพลาสติก โดยจะมีปลายด้ามกวาดทำจากดอกใหญ่ มีขนาดเล็ก หรือ ขนาดใหญ่ ใช้ในการปัดฝุ่นไม้ที่เกิดจากการขัดในทุกขั้นตอนให้หมดไปจากบริเวณพื้นผิวไม้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขั้นตอนที่ 1 อุดรอยตำหนิ และการขัด หรือการปรับพื้นผิว

ขั้นตอนและกระบวนการแปรรูปไม้

ขั้นตอนที่ 3 การทาเคลือบผิวด้วยแลกเกอร์ และ เก็บงาน